Monday 29 June 2015

0 Comments
Posted in Arrangement, Art, Business

สวยมาแรง !! มาดูกันว่าผู้หญิงคนนี้ ศัลยกรรมจริงมั๊ย ??

adp=113201">

ชั่วโมงนี้คงไม่มีขาแด๊นซ์คนไหนไม่รู้จัก "ดีเจโซดา" หรือ "ฮวางโซฮี" ดีเจสาวสุดฮอตจาก Club Octagon กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ สวยเซ็กซี่ น่ารัก และลีลาการเปิดแผ่นทำให้ภาพของเธอถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์และโลกออนไลน์อย่างมากมาย
นอกจากความมันจากการมิกซ์เพลง New Thang - Redfoo เพลงฮิตของเธอที่มาพร้อมสเต็ปการเต้นเซ็กซี่เบาๆ แล้ว เรื่องความสวยเป๊ะของใบหน้าและรูปร่างที่แซ่บเวอร์ อกเป็นอกเอวเป็นเอว จนไม่อาจละสายตาได้
เมื่อไม่นานมานี้มีภาพนักเรียนผู้หญิงที่หลายคนบอกว่าคือ ดีเจโซดา ก่อนศัลยกรรม ซึ่งกระแสบนโลกออนไลน์นั้นมีหลายด้าน บางคนบอกว่า “เธอสวยหน้าตาดีสวยใสมาตั้งแต่เด็กเลย ด้วยวัยที่โตขึ้นหน้าตาเลยเปลี่ยนไปบ้าง” แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเรื่อง การศัลยกรรม ของเกาหลีใต้นั้นโด่งดังและมีไอดอลหลายคนก็โดนวิจารณ์เรื่องการศัลยกรรม จึงไม่แปลกที่ บางกลุ่มจะคิดว่า “เธอสวยจากการทำศัลยกรรมหน้าเรียว จมูกและขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
ถึงจะยังไม่มีคำยืนยันว่าความสวยที่เห็นกันอยู่นั้นมาจากการ ศัลยกรรม จริงหรือไม่? แต่เชื่อว่าหนุ่มไทยคงจะตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจังล่าสุด ดีเจโซดา ได้มีโอกาสมาเปิดโชว์มิกซ์เพลงที่ประเทศไทย ทำเอาหนุ่มๆ ที่อยากเห็นการมิกซ์เพลงและท่าเต้นของดีเจโซดา ต้องยอมลงทุนควักกระเป๋าจ่ายค่าเข้างานกันเลยทีเดียว
สำหรับสาวๆ ที่อยากเห็นโฉมหน้าของ ดีเจโซดา ชัดๆ วันนี้ Sanook! Women เรามีพัฒนาการความสวย พร้อมแฟชั่นการแต่งตัวเสื้อเอวลอย กับกางเกง disco pant จากแบรนด์ american apparel สไตล์ที่เห็นจนชินตา เธอจะสวยใสน่ารักขนาดไหน ตามเกรดดี้มาได้เลยค่ะ

Sunday 11 January 2015

0 Comments
Posted in Arrangement, Art, Business

สามใบไม่เถา เรื่องย่อ ละคร ช่อง 3



เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องย่อ สามใบ(ไม่)เถา


ละคร  สามใบ(ไม่)เถา  บทประพันธ์ อาริตา
ละคร  สามใบ(ไม่)เถา  บทโทรทัศน์ ชลนภัสส์/ตุณย์ละคร  สามใบ(ไม่)เถา  กำกับการแสดง ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติละคร  สามใบ(ไม่)เถา  ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช


เรื่องรักของสามสาวในครอบครัวคุณพ่อจอมหวง.. หนึ่ง.. คือรักมั่นคงของลูกสาวคนโต ที่พร้อมจะท้าทายกฏเหล็ก อีกหนึ่ง.. คือรักสุดห้าวลูกสาวคนกลาง ที่รู้แจ้งเรื่องผู้ชายจนยากจะหาใครดีพร้อมสำหรับตัวเอง และอีกหนึ่ง.. คือรักซ่อนรูปของน้องสาวคนสุดท้องอันยากจะหักห้าม กว่าจะได้มาซึ่งความรักที่มีอุปสรรคคือคุณพ่อขี้หวง  พวกเธอยังต้องเอาชนะทั้งหัวใจตัวเองและคนที่เธอรัก  ที่นำมาซึ่งรสชาติหลากหลายของสิ่งที่เรียกว่า “ความรัก”

อัษฎา  มีลูกสาว 3 คน.. สวยล้ำทุกคน  ผู้เป็นพ่อหวงลูกสาวเรียกว่าจงอางหวงไข่ยังน้อยไป  อัษฎาเป็นเหมือนพญานาค 8 เศียรที่แผ่ทุกเศียรปกป้องลูกสาวจากบรรดาหนุ่มๆ  ความสัมพันธ์ในครอบครัวอัษฎานับว่าแปลกทีเดียว   อัษฎา กับ  บราลี ภรรยา ต่างมีลูกติดและทั้งสองมีลูกของเรา อุรวสา คนโตเป็นลูกติดอัษฎาที่สนิทสนมกับแม่เลี้ยงตั้งแต่เล็ก  ไม่ค่อยกินเส้นกับพ่อแท้ๆ ตัวเอง   อันตรา คนรองเป็นลูกติดบราลี แต่กลับเป็นคู่ซี้อัษฎาพ่อเลี้ยง  ลุยไหนลุยกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง    อินทุอร คนเล็กสนิทกับทั้งพ่อทั้งแม่  มีดีที่ลีลาออดอ้อนให้พ่อยอมทำตามทุกอย่างได้โดยดุษฏี สามศรีพี่น้องรักใคร่สามัคคีกันดี  ต่างไม่คิดว่าเป็นลูกคนละพ่อคนละแม่ เนื่องด้วยพ่อกับแม่รักลูกทุกคนเท่ากัน

เมื่อต้นปี อุรวสา กลับจากอเมริกาหลังไปใช้ชีวิตที่นั่นหลายปี  หอบใบปริญญามหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก และดีกรีนักออกแบบมือรางวัลกลับมาให้พ่อแม่ภูมิใจ  ทว่าสิ่งที่พ่อแม่ไม่รู้ก็คือ  อุรวสาหอบสามีกลับมาด้วย... แสงฉาน แฟนหนุ่มจูงมืออุรวสาเข้าโบสถ์แต่งงานเรียบร้อยโรงเรียนอเมริกัน  ทั้งสองอยู่กินกันฉันสามีภรรยามา 2 ปีแล้ว  อุรวสาเป็นคนต้องการปิดเรื่องแต่งงาน  เพราะพ่อคาดหวังกับลูกเขยคนโตไว้สูงลิบ  ต้องเป็นคนดี เจ้าของกิจการใหญ่โต ฐานะมั่นคง  แต่แสงฉานเป็นแค่เชฟจบใหม่ ไฟแรง จิตใจดี ดีกรีเกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่ง 


อุรวสาตั้งเงื่อนไขจะพาแสงฉานไปกราบพ่อในฐานะสามี  ก็ต่อเมื่อแสงฉานสร้างเนื้อสร้างตัวทำตามฝันตัวเอง  เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยฟิวชั่นประยุกต์จนติดอันดับโลกได้ก่อน  ฝ่ายแสงฉานได้แต่ยิ้มฟังตามประสาชายหนุ่มอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจ  รู้ดีว่าเมื่อแฟนสาวคนเก่งแสดงเจตจำนงใด  อีกฝ่ายห้ามต่อรอง    อันตรา สาวห้าวคนรองเปิดธุรกิจฟิตเนส  แต่ด้านหน้าแบ่งเป็นสำนักงานนักสืบ  เธอเจริญรอยตามพ่อแท้ ๆ ที่เป็นตำรวจสายสืบซึ่งเสียชีวิตตอนสืบคดีๆ หนึ่ง  อันตราได้รับการว่าจ้างให้สะกดรอยตาม เวสน์ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา  ผู้ว่าจ้างสาวคนหนึ่งสงสัยว่าชายหนุ่มแอบซุกหญิงอื่นไว้  เวสม์รู้ตัวว่าถูกตาม  พยายามคาดคั้นอันตราว่าใครจ้าง  แต่เธอไม่ยอมบอกเพราะผิดจรรยาบรรณนักสืบ   อันตราสมเพชเวสน์ที่หน้าตาก็ดีไม่น่า... ขายตัว   เวสม์อึ้งที่อันตราหาว่าเป็นแมงดา  เขาขำแกมประทับใจในจินตนาการของสาวเจ้า  เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโดนใครด่าว่าเป็นแมงดาแบบนี้...   

เวสม์ไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสอันตรา  อันตราประกาศไม่รับแมงดาเป็นสมาชิก แต่ลูกน้องดันรับเงินให้ใบเสร็จเวสน์ไปแล้ว  จึงบังเกิดเรื่องโกลาหลอยู่เนืองๆ เมื่อเวสม์มาออกกำลังกาย  ชายหนุ่มชอบยั่วให้อันตรายัวะแล้วเถียงกัน  เวสม์สนุกเวลาต่อปากต่อคำกับอันตราสาวห้าวเป็นอย่างยิ่ง   เขาพยายามเซ้าซี้ถามว่าใครจ้างตามสืบ..  แต่อันตรารูดซิปปากสนิท ซิปไม่มีแตก      

งานวันเกิดอัษฎาจัดขึ้นทุกปี   ปีนี้พิเศษกว่าปีก่อนเพราะมีแขกพิเศษ  ภิสิต เพิ่งเดินทางกลับจากฝรั่งเศสหลังไปทำงานเป็นผู้ช่วยทูตอยู่ 10 กว่าปี   อินทุอรใจเต้นระส่ำเมื่อเห็น...คุณอาสิต   ย้อนไปเมื่ออินทุอร 7 ขวบ  เด็กหญิงตัวน้อยไปงานเลี้ยงกับพ่อ  พวกผู้ใหญ่ออกไปเต้นรำ  เด็กหญิงอินทุอรเฝ้ามองผู้ใหญ่เต้นรำกอดกัน ประหนึ่งเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงในนิทาน  

เด็กหญิงอินทุอรฝัน จะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาขอเต้นรำ  อาสิตเดินมาหา โค้งให้เด็กหญิงตัวน้อย  จูงมืออินทุอรออกไปเต้นรำโดยคุณอาสิตอุ้มอินทุอรตลอดเพลง   ตั้งแต่นั้นมาเด็กหญิงอินทุอรก็ติดคุณอาสิตแจ  จนกระทั่งภิสิตถูกส่งไปประจำที่ฝรั่งเศสจึงห่างเหินกัน   ผ่านมา 10 กว่าปีใครต่อใครคิดว่าอินทุอรลืมภิสิตแล้ว  หากแต่ความจริง.ภิสิตเป็น...รักฝังใจอินทุอร  รักฝังใจที่เป็นไปไม่ได้... เพราะภิสิตแต่งงานแล้วภิสิตสนิทสนมกับครอบครัวอัษฎามากพอจะเล่าเรื่องส่วนตัว  เขามีชีวิตการแต่งงานล้มเหลวไม่เป็นท่า

 
เมื่อภิสิตพูดถึง บุษบาบัณ  อินทุอรสังเกตเห็นนัยน์ตาเศร้า ๆ แล้วสงสารจับใจ  โดยไม่รู้ตัวเลยว่านั่นคือ..จุดเริ่มต้นของ “ความรัก”   ความที่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม  ภิสิตกับบุษบาบัณตกลงอยู่กันฉันท์สามีภรรยาแต่เพียงในนามมานานหลายปีแล้ว  อัปสร ป้าของภิสิตรับรู้ความไม่ลงรอยในชีวิตคู่ของหลานชายคนเดียว   เธอสงสารหลานมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตคู่แล้ว

ภิสิตถูกพ่อจับแต่งงานกับบุษบาบัณเพราะความเหมาะสมทางสังคม  เขาเป็นคนหนุ่มบ้างานมุ่งมั่นจะประสบความสำเร็จในกระทรวงฯ  ตรงข้ามกับบุษบาบัณที่เป็นสาวเปรี้ยวเฉี่ยว ชอบสังคม รักการเที่ยวเตร่ ใช้เงินซื้อความสุขทุกอย่าง  แม้แต่ตอนที่แต่งงานแล้ว.. ขณะอยู่ที่ฝรั่งเศสบุษบาบัณก็ยังไม่หยุดเที่ยว  เธอควงชายหนุ่มไม่เลือกหน้าโดยไม่เกรงใจภิสิตผู้เป็นสามีเลยแม้แต่น้อย  จนในที่สุดภิสิตทนไม่ได้  ตกลงต่างคนต่างอยู่   มีชีวิตส่วนตัวเป็นของตัวเอง  

ซึ่งบุษบาบัณก็ไม่รู้สึกอะไร... ดีเสียอีกที่เธอจะได้สนุกกับชีวิตสาวโสดได้อย่างเต็มที่  ไม่ต้องเกรงใจใคร   เมื่อภิสิตกลับมาเมืองไทยแล้ว  ป้าอัปสรอยากให้ภิสิตหย่าขาดให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที  เขาจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่...แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา  ผู้หญิงดีๆ มีออกถมเถ  แต่ภิสิตไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้น  ด้วยเพราะภาระทางสังคมและเกียรติยศชื่อเสียงวงศ์ตระกูลระหว่างบุษบาบัณกับเขายังค้ำคออยู่
   
ในวันหยุดวันหนึ่ง..  ภิสิตเจออินทุอรที่บ้านป้าอัปสร  จึงได้รู้ว่าอินทุอรเป็นเพื่อนต่างวัยของอัปสรเพราะชอบฟังเพลงลูกกรุงเหมือนๆ กัน  อินทุอรมักจะจูงมืออัปสรไปดูคอนเสิร์ตชรินทร์ นันทนาคร อยู่บ่อยๆ  เหตุที่อินทุอรชอบเพลงของชรินทร์ก็เพราะนั่นเป็นเพลงแรกที่ภิสิตเต้นรำกับอินทุอร  

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ภิสิตกับอินทุอรจึงมีโอกาสพบกันอยู่บ่อยครั้ง  อัปสรทำตนเป็นแม่สื่อชั้นดี  ให้อินทุอรแสดงฝีมือทำกับข้าวให้ภิสิตกิน   ให้อินทุอรถักเสื้อหนาวให้ภิสิตเผื่อภิสิตถูกส่งไปประจำเมืองหนาว  หนำซ้ำอัปสรยังให้ภิสิตไปรับไปส่งอินทุอรที่บ้านอยู่บ่อยๆ    ภิสิตรู้ทัน... อัปสรต้องการจับคู่เขากับอินทุอร  

ไม่ใช่อินทุอรคนเดียวที่จำงานเต้นรำคืนนั้นได้   ภิสิตเองก็จำภาพเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักแก้มแดงสุกปลั่งเป็นที่น่าเอ็นดู   โตเป็นสาวอินทุอรยิ่งสวย  สวยจนทำให้ภิสิตหวั่นไหวตั้งแต่วันที่เจอกันงานวันเกิดอัษฎา   ภิสิตไม่กล้าแสดงออกด้วยเกรงใจอัษฎา  ภาระทางสังคมอันยิ่งใหญ่...ทำให้ความรักระหว่างเขากับอินทุทรเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...  หากแต่ขณะนี้ความรักระหว่างอินทุอรกับภิสิตเกิดขึ้นแล้ว .. เขาและเธอต่างพึงใจซึ่งกันและกัน ก่อเกิดความผูกพันโดยทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่น้อย...

อันตราขี่มอเตอร์ไซค์สะกดรอยตามเวสม์ตามภารกิจนักสืบ  แต่เวสม์จับได้จึงแกล้งสะกดรอยอันตรากลับ   อันตรารู้ตัวตกใจจึงขี่รถหนีแต่ก็ไม่พ้น  เธอชนรถของเวสม์อย่างจังจนสลบ  ระหว่างนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอันตราบอกทุกคนว่าเวสม์จงใจขับรถชน  เพราะเกลียดที่เธอตามสะกดรอยเขาที่กำลังติดพันกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง  อัษฎาจะเอาผิดเวสม์  แต่อุรวสาห้ามไว้เพราะเธอทำธุรกิจกับเวสม์มานานและรู้นิสัยเวสม์ดี  แต่ทั้งสองคุยกันไม่รู้เรื่องตามประสาพ่อลูกที่ไม่มีใครยอมใคร 

จากการแอบตามอันตราครั้งนั้นทำให้เวสม์รู้ว่าคนว่าจ้างคือ ศศิพิมล  ศศิพิมลกลัวเวสม์มีผู้หญิงอื่นจึงจ้างนักสืบสะกดรอย   เวสม์โกรธมากเพราะศศิพิมลไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา  ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน   นอกจากอดีตรักครั้งแรกที่ผ่านมานานแสนนาน   เวสม์ขอให้ศศิพิมลออกไปจากชีวิตเพราะไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว  แต่ศศิพิมลตื๊อไม่เลิก  ร้องห่มร้องไห้ว่าโดน  พงษ์ชัย สามีเจ้าพ่อทำร้ายจิตใจสารพัด  ครั้งหลังสุดเธอโดนทุบตีบาดเจ็บเจียนตาย เวสน์ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นอาการร้องไห้แบบไม่สมประดีของสาวที่เขาเคยพึงใจ..  

เวสม์สงสารศศิพิมลในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  จึงช่วยเหลือให้ที่เธอพักที่คอนโดฯ เก่าซึ่งเขาไม่ได้อยู่แล้วเพื่อหนีจากพงษ์ชัย   โดยไม่เฉลียวใจเลยว่านั่นยิ่งสร้างความหวังให้กับศศิพิมลมากขึ้นไปอีก   เธอตั้งใจจะใช้จิตใจที่ดีงามของเวสม์...เป็นหนทางกลับเข้ามาสู่ชีวิตของชายหนุ่มอีกครั้ง

เวสม์มาเยี่ยมอันตราทุกวัน  เวลามาต้องคอยหลบอัษฎาที่มีสายตาไม่เป็นมิตร เพราะคิดว่าเขาเป็นผู้ชายไม่ดี   อำพล  เพื่อนหมอของเวสม์เป็นเจ้าของไข้อันตราช่วยดูต้นทางให้    อำพลดีใจที่เห็นเวสม์เริ่มหันมาสนใจรู้จักรักผู้หญิง  เพราะหลังจากเวสม์อกหักช้ำรักจากศศิพิมลตอนวัยรุ่น  เวสม์ก็เตลิดไปเมืองนอก มุหาเงินเพื่อชดเชยปมที่โดนศศิพิมลทิ้งเพราะจน  เขาประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นข้ามชาติ  ปัจจุบันเป็นนักการเงินชื่อดังหาตัวจับยาก  แต่เวสม์เอาแต่หาเงินจนลืมหาแฟน   อำพลเชียร์เวสม์กับอันตรา  แต่ก่อนอื่นเวสม์ต้องทำให้อันตราเลิกเข้าใจผิดว่าเป็นไอ้ตัวซะก่อน

เมื่อออกมาจากโรงพยาบาล  อันตราเห็นเวสม์ดูแลศศิพิมลในวันที่โดนสามีเจ้าพ่อทำร้าย  บางวันศศิพิมลก็นอนค้างคอนโดเก่าของเวศม์   ยิ่งทำให้อันตราเข้าใจผิด ขยะแขยงคิดว่าเวสม์เกาะผู้หญิงมีสามี   เวสม์แกล้งไม่อธิบายปล่อยให้อันตราเข้าใจผิด  เพราะสนุกดีเวลายั่วให้สาวห้าวด่าเล่น  อันตราถึงขนาดท้าเวสม์ลงนวมต่อยมวยที่ฟิตเนส  เวสม์ออมมือปล่อยให้อันตราชนะไป  สาวห้าวยิ่งเหลิงน่าดู ทำซ่า ท้าตีท้าต่อยเวสม์ประจำ  

แสงฉานซื้อร้านอาหารเก่าเล็กๆ มาปรับปรุงใหม่  เปิดเป็นร้านขายอาหารฝรั่งและไทยประยุกต์  โดยลงทุนจากเงินเก็บของตัวเอง  ไม่ยอมใช้เงินของอุรวสาผู้เป็นภรรยา  แม้ว่าอุรวสาจะไม่เห็นด้วยและพยายามผลักดันให้แสงฉานเปิดร้านใหญ่มากกว่านี้ก็ตาม  แสงฉานต้องการตั้งตัวให้ได้ด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ให้อัษฎาเห็นว่าเขาเหมาะสมกับอุรวสา  แสงฉานตั้งชื่อร้านว่า US Restaurant ตัว U มาจากชื่อ 

อุรวสา  ส่วน S ก็คือชื่อ แสงฉาน   ในวันเปิดร้าน  อุรวสาพาอัษฎามา US  Restaurant ด้วยหวังจะให้พ่อมองแสงฉานดีขึ้น  เพราะก่อนหน้านี้แสงฉานเคยเจออัษฎาว่าที่พ่อตา  แต่อัษฎาไม่ชอบแสงฉาน  เพราะคุณสมบัติแสงฉานไม่ผ่านมาตรฐานสุดเนี๊ยบ   และเพื่อให้บรรยากาศราบรื่น  อุรวสาพาอินทุอรน้องสาวคนเล็กขวัญใจพ่อมาอีกคน    

ทว่างานนี้ 10 อินทุอรก็ช่วยไม่ได้   อัษฎาตำหนิแสงฉานไม่รู้จักคิดการใหญ่  ร้านเข้ามาในซอยลึกทำเลไม่ดี ไม่น่าจะเจริญไปได้   แต่แสงฉานมั่นใจรสชาติอาหารของตนจะสามารถดึงลูกค้าได้  วันเปิดร้านจึงเกิดบรรยากาศโกลาหลของความไม่ลงรอยกันระหว่างว่าที่พ่อตากับลูกสาวและลูกเขยจนร้านแทบแตก   แสงฉานทำงานหนักเป็นสองเท่า  คิดเมนูอาหารไทยประยุกต์แบบใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า  ติดป้ายทางเข้าร้าน  ซึ่งก็ได้ผลลูกค้าเริ่มมา   แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจอุรวสา  อุรวสาต้องการให้ร้านเต็มทุกที่นั่ง    แสงฉานอ่อนใจ  บางครั้งมาตรฐานสูงลิบของอุรสาก็กดดันเขาอยู่ไม่น้อย  คู่หนุ่มสาวทะเลาะกันบ่อยครั้ง    การไม่ให้เกียรติสามีของอุรวสา ทำให้ความอดทนของแสงฉานหมดลงเรื่อย ๆ    แสงฉานอาจไม่ใช่ผู้ชายที่เก่งที่สุด... แต่ก็ไม่ได้โง่ ขนาดต้องให้เมียเข้ามาจัดการชีวิตทุกอย่าง  

อัษฎาชวนภิสิตมากินข้าวที่บ้าน  อินทุอรดูแลปรนนิบัติภิสิตอย่างดีจนบราลีและอุรวสาอดที่จะร้อนใจไม่ได้ว่าอินทุอรข้ามเส้นคิดเกินเลยกับภิสิต   ภิสิตเห็นสายตาของอินทุอรที่ชื่นชมก็ยิ่งทรมานใจและรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำอยู่ ขอตัวกลับ  แต่อินทุอรเข้าใจผิดคิดว่าภิสิตโกรธ  เมื่อเธอขอคำอธิบาย  ภิสิตตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่าเขาไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่อินทุอรคิด   ทำให้อินทุอรช้ำใจกับความหมางเมินเหินห่าง       บราลีกับอุรวสาแน่ใจว่าอินทุอรปักใจกับภิสิตแน่ๆ  จึงตกลงกันว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้อัษฎารู้และรอดูท่าทีของภิสิต  หากเขาแสดงออกว่าชอบอินทุอร  อุรวสาและอันตราจะเป็นคนไปพูดกับภิสิตเอง    

อุรวสาต้องการเปิดสาขาร้าน   แต่แสงฉานไม่เห็นด้วยอยากให้ร้านแรกอยู่ตัวก่อนแล้วค่อยขยับขยาย   อุรวสาไม่ฟัง ซื้อร้านเก่ามาตกแต่งใหม่   แสงฉานโมโหไม่ยอมไปเป็นเชฟให้   ด้วยความเจ้าอารมณ์อุรวสาเผลอต่อว่าแสงฉานว่าไม่มีหัวธุรกิจ ไม่มีความทะเยอทะยาน  เธอไม่ต้องการผู้ชายแบบนี้มาเป็นผู้นำครอบครัว  แสงฉานเหมือนโดนตบหน้า...   เมียปรามาสดูถูก  แสงฉานขอเลิก !   อุรวสาโมโห เลิกก็เลิก !

แต่หลังเลิกรากันต่างฝ่ายต่างเสียใจ  แสงฉานไม่มีจิตใจบริหารร้าน  อุรวสาแทบไม่มีรอยยิ้มเพราะคนเดียวที่ทำให้อุรวสายิ้มได้... คือแสงฉาน

บุษบาบัณมีโอกาสพบกับแสงฉานในงานปาร์ตี้ครั้งหนึ่งที่ก๊วนแก๊งค์จัดที่ US Restaurant   ทันทีที่เห็นหน้า  ด้วยความเป็นสาวเปรี้ยวเจ้าชู้.. บุษบาบัณถึงกับถูกใจในความหล่อเหลาของแสงฉาน    บุษบาบัณหาโอกาสเข้ามาใกล้ชิดแสงฉานอยู่ตลอดเวลา  ใช้เล่ห์มารยาหญิงยั่วยวนแสงฉานแต่เขาไม่เล่นด้วย   ผู้หญิงคนเดียวที่แสงฉานรักคือ...อุรวสา    บุษบาบัณไม่ยอมแพ้วางแผนให้อุรวสาเข้าใจผิดว่าแสงฉานมีอะไรกับเธอ  แต่อุรวสาไม่หลงกล...ตบหน้าบุษบาบัณฉาดใหญ่  ให้สาสมกับความหน้าไม่อายอยากจะแย่งผู้ชายที่เธอรัก  

เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้อุรวสาตระหนักว่ารักแสงฉานมากแค่ไหน .. ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง    ในงานเลี้ยงเปิดงานโครงการก่อสร้างแห่งใหม่ของอัษฎา  เวสม์ไปด้วยในฐานะนักการเงิน     อัษฎาจึงชวนภิสิตไปร่วมงานเพื่อกันเวสม์จากอินทุอร  เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเวสม์ทำดีกับอันตราเพื่อจีบอินทุอร   ยังไงเสียเขาก็ไม่ยอมเสียลูกสาวให้กับผู้ชายที่ไม่น่าไว้ใจเป็นอันขาด!!

บุษบาบัณตามภิสิตมาด้วย  เพราะเริ่มระแคะระคายคิดว่าภิสิตต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้หญิงคนใดคนหนึ่งแน่นอน   แม้เธอไม่ได้รักภิสิต... แต่บุษบาบัณต้องการความเป็นเจ้าของผู้ชายคนนี้  บุษบาบัณยอมไม่ได้ที่ภิสิตจะทิ้งเธอ.. เพื่อไปหาผู้หญิงคนใหม่ !!  อินทุอรสลดไปเมื่อเห็นภิสิตมากับบุษบาบัณ  เธอต้องเลี่ยงไปคุยกับเวสม์แทน  เมื่อบุษบาบัณเห็นแววตาของอินทุอร  เธอมั่นใจขึ้นทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ภิสิตแอบชอบอยู่   เธอยิ่งชิงชังอินทุอรมากขึ้นไปอีก  

อันตรากับอุรสาเห็นสายตาไม่เป็นมิตรของบุษบาบัณ  รีบดึงอินทุอรออกมาเตือนด้วยความเป็นห่วงกลัวเธอปล่อยใจให้ภิสิต  อินทุอรจำต้องยอมรับกับพี่สาวทั้งสองคนว่าเธอชอบภิสิตเกินกว่าจะห้ามใจ  อันตราและอุรสาเข้าใจน้องสาว.. และสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้อัษฎารู้  อินทุอรถูกโทรศัพท์ลึกลับตามรังควานและยังถูกบุษบาบัณใส่ร้ายว่าแย่งภิสิตผ่านหน้านิตยสาร   ภิสิตทะเลาะกับบุษบาบัณอย่างรุนแรง  ที่ปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงของอินทุอรแบบนี้  ทั้งที่ก่อนหน้านี้คนในสังคมรับรู้ว่าบุษบาบัณไม่เคยแยแสภิสิตแม้แต่นิดเดียว    เมื่ออัปสรรู้เรื่องราวทั้งหมดจึงนัดอัษฎามาคุยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง  แนะนำให้อัษฎายอมรับความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง  เพราะความรักระหว่างภิสิตกับอินทุอรมีแต่ความสวยงามและอยู่ในสายตาของเธอโดยตลอด  

อัษฎาถึงกับอึ้งเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมด...ยากจะทำใจจริงๆ ที่ลูกสาวคนเล็กจะรักกับเพื่อนรุ่นน้องอย่างภิสิต  อุรสาช่วยย้ำให้อัษฎาเห็นว่าอินทุอรไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของภิสิตแตกแยก  เธอเล่าเรื่องราวระหว่างเธอ บุษบาบัณ และ แสงฉาน ให้พ่อฟัง  เพื่อตอกย้ำว่าบุษบาบัณทำตัวแย่เพียงใด  ผู้หญิงอย่างบุษบาบัณไม่เคยซื่อสัตย์กับภิสิตเลยสักครั้ง..    สถานการณ์เรื่องราวระหว่างอินทุอรกับภิสิตเบาบางลง ..

แต่เรื่องราวการแอบแต่งงานกันระหว่างอุรสากับแสงฉานกลับถูกรับรู้โดยอัษฎา.. ระเบิดระหว่างพ่อกับลูกสาวคนโตในบ้านประทุอีกครั้ง !!!   ศศิพิมลขอหย่าพงษ์ชัยเพื่อเดินหน้าแย่งชิงเวสม์   แต่พงษ์ชัยไม่ยอมหย่า ตบตีและทำร้ายศศิพิมลจนเข้าโรงพยาบาล  เวสม์ขู่จะแจ้งความหากพงษ์ชัยยังทำร้ายศศิพิมลอีก  

ในที่สุดศศิพิมลพ่ายแพ้ต่อความดีของเวสน์ในครั้งนี้   ศศิพิมลเรียกอันตราเข้ามาบอกความจริงและความดีของเวสน์ในอดีตทั้งหมด  เล่าให้อันตราฟังว่าเวสน์รักอันตรามากแค่ไหน  เหตุการณ์ครั้งนี้.. ทำให้อินตรารับรู้ความจริงว่าเวสม์เป็นผู้ชายแสนดีและเป็นสุภาพบุรุษเพียงใด    เป็นครั้งแรกที่สาวห้าว ยินดีเปิดใจรับชายหนุ่มอย่างเวสม์เข้ามาในหัวใจ    คนในครอบครัวแปลกใจเมื่อเห็นอันตราใส่กระโปรง  ตั้งแต่ใช้นางสาวนำหน้า  สาวห้าวไม่เคยนุ่งกระโปรงอื่น.. นอกจากกระโปรงนักเรียน !!  

แม่พี่สาวน้องสาวถามไถ่ยกใหญ่  อะไรดลใจให้เปลี่ยนไป  อันตราปิดปากเงียบแต่อัษฎารู้...ก็ไอ้แมงกะจั๊วหน้าหล่อนั่นไง  ทำลูกสาวคนสนิทของเขากลายเป็นหญิงจ๋า   อัษฎาบอกอันตรา...หัวเด็ดตีนขาด พ่อก็ไม่รับไอ้เจ้าเวสม์เป็นลูกเขย     

แม้ว่าอันตรากับบราลีผู้เป็นแม่.. จะอรรถาธิบายถึงเหตุผลความดีของเวสน์ยังไง  คนหัวดื้ออย่างอัษฎาก็ไม่ยอมฟัง   พงษ์ชัยสั่งให้ลูกน้องจับตัวเวสม์ไปซ้อมทำร้าย  แล้วกลายเป็นอัษฎาที่เข้าไปช่วยเวสม์ออกมาจากเหล่าร้ายจนตัวเองเกือบโดนยิงตาย  อัษฎายอมเสี่ยงตายเพื่อเวสม์เพราะรู้ว่าเวสม์เป็นผู้ชายที่อันตรารัก  อัษฎารู้ว่าเวสม์ไม่ใช่แมงดา  แต่ที่ไม่ยอมรับเพราะกลัวเวสม์แย่งลูกสาวไป   เวสม์ตัดสินใจเข้าไปสู่ขออันตรา  พร้อมๆ กับที่ภิสิตกับแสงฉานเอาธูปเทียนแพไปกราบขอขมาอัษฎา ที่ปิดปังความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับลูกสาวอีกสองคนของอัษฎามาโดยตลอด   บราลีพยายามชี้ให้อัษฎาตระหนักรับรู้ถึงความรักของหนุ่มสาวทั้งสามคู่...  

อุรวสา อันตรา และ อินทุอร โตเป็นผู้ใหญ่... ไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยที่อัษฎาเคยดูแลและปกป้อง   อาจถึงเวลาที่สาวน้อยของพ่อต้องออกไปเผชิญโลกกว้างกับผู้ชายที่รักแล้ว  ในที่สุดอัษฎาจึงเปลี่ยนความคิด  ยอมรับความจริงข้อนี้ทั้งหมด.. อัษฎาปลื้มใจที่ลูกทั้งสามคน  แม้ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ แต่รักกันมาก  เสียสละดูแลกันและกันตลอดเวลาในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น      

ในคืนงานแต่งงานอย่างเป็นทางการระหว่างอุรวสากับแสงฉาน  อัษฎาสอนอุรวสา...เป็นภรรยาไม่ควรข่มสามี  ต้องให้เกียรติสามี  เคารพสามี  เพราะทั้งคู่เปรียบเหมือนส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน  อุรวสาพยักหน้ารับคำ...ก้มกราบพ่อ  อันตราจะแต่งงานกับเวสม์เดือนหน้า...ส่วนอินทุอรมีแพลนจะแต่งกับภิสิตสิ้นปี  

ต้นปีหน้าภิสิตต้องจะต้องไปเป็นผู้ช่วยทูตที่ออสเตรียและจะพาอินทุอรไปอยู่ด้วยในฐานะภรรยา   อีกไม่นานบ้านหลังใหญ่ของอัษฎา  ลูกๆ ก็จะแยกย้ายไปมีครอบครัว  แต่ไม่ว่าลูกของพ่อไปอยู่แห่งหนไหน   สายใยรักของพ่อก็เชื่อมโยงถึงลูกเสมอ...

รายชื่อนักแสดงละคร สามใบไม่เถา

กฤษฎา พรเวโรจน์ รับบทเป็น ภิสิต
รณิดา เตชสิทธิ์ รับบทเป็น อินทิรา
หลุยส์ สก๊อตต์ รับบทเป็น เวศม์
อามีนา กูล รับบทเป็น อันตรา
อเล็กซ์ เรนเดลล์ รับบทเป็น แสงฉาน
ณัฎฐณิชา      ดังวัธนาวณิชย์(ณิชา) รับบทเป็น อุรวสา
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบทเป็น อัษฎา
อาภาศิริ นิติพน รับบทเป็น บราลี
พิตต้า ณ พัทลุง รับบทเป็น บุษบาบัณ
อภิษฎา เครือคงคา รับบทเป็น ศศิพิมล
อนันต์ บุนนาค รับบทเป็น สมศักดิ์
ดนัย จารุจินดา รับบทเป็น พงษ์ชัย
นัฐฐา ลอยด์ รับบทเป็น ป้าอัปสร
ปรารถนา สัชฌุกร รับบทเป็น ป้าแต๋ว
ปาริฉัตร ไพรหิรัญ รับบทเป็น ป้าต้อย
0 Comments
Posted in Arrangement, Art, Business

เศรษฐกิจ : คอลัมน์เด็ด


วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557
เงินทองต้องรู้ : อยู่หรือไป

เงินทองต้องรู้ : อยู่หรือไป

เงินทองต้องรู้ : อยู่หรือไป : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล k_wuttikul@hotmail.com

 
                                ราวๆ กลางเดือนที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ให้ไปช่วยบรรยายในหัวข้อเกี่ยวกับความรู้ด้านการออมและการลงทุนให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยได้ฟัง ทำให้รู้ว่า เป็นความเข้าใจ (ไปเอง) ของคนที่คลุกคลีจนเคยชินกับการออมและการลงทุน ที่คิดว่า คนส่วนใหญ่ที่มีรายได้จะสามารถหรืออย่างน้อยที่สุด ก็มีความพยายามจะแบ่งสรรปันส่วนเงินของตัวเอง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเองในอนาคต ซึ่งเป็นความเข้าใจ (ไปเอง) ที่ผิด เพราะมีบุคลากรของมหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่ได้เริ่มศึกษาการลงทุน สิ่งที่ทำอยู่อย่างเดียว คือ ฝากเงินไว้กับธนาคาร นั่นทำให้การบรรยายในวันนั้นสร้างความตื่นตัวได้มากขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนพูด
 
                                ที่น่ายินดีกว่านั้น คือ การที่ผู้บริหารของสถาบันการศึกษาอย่าง รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดี ใส่ใจกับเรื่องเงินทองของบุคลากร ซึ่งเป็นเรื่อง “พื้นฐานสำคัญ” ของมนุษย์ หลังจบการบรรยายในวันนั้น เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยยังเดินแจกเอกสารที่อธิการบดีฝากมาถึงทุกคน เป็นบทความที่ท่านเขียนในนิตยสารสกุลไทย หัวข้อ “ออมก่อนใช้” ซึ่งในบทความชิ้นนี้ รศ.ดร.วรากรณ์ ปิดท้ายไว้ว่า “ออมก่อนใช้ เป็นคาถาที่ขลัง ถ้าต้องการมีเงินเหลือจากการใช้จ่าย เพื่อนำเงินไปลงทุนสร้างรายได้เพิ่มขึ้น คาถานี้จะช่วยให้มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่ต้องอาศัยจมูกคนอื่นหายใจ”
 
                                “ออมก่อนใช้” เป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว และได้รับการยืนยันว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บหอมรอมริบ เพราะต่อให้ใช้จ่ายน้อยแค่ไหน แต่ถ้า “ใช้ก่อนออม” เงินออมที่เหลืออยู่ก็แทบไม่เคยทำให้ใครบรรลุเป้าหมายทางการเงินของตัวเองได้
 
                                ปัญหา คือ ถ้าออมด้วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องหาทาง “บังคับให้ตัวเองต้องออม” ถ้าเป็นพนักงานบริษัทเอกชน และบริษัทมี “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” ขอให้โดดเข้าใส่แบบไม่ต้องลังเล เพราะนั่นคือ “สวัสดิการ” ที่บริษัทจัดให้ เนื่องเพราะกลไกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะหักเงินเดือนจากพนักงานส่วนหนึ่ง จะเดือนละ 3% หรือ 5% ของเงินเดือนก็แล้วแต่ข้อกำหนดที่ตกลงทำร่วมกัน นี่แหละคือ การออมภาคบังคับ และเป็นการ “ออมก่อนใช้” ของจริง 
 
                                แต่ที่มากกว่านั้น และเป็น “สวัสดิการ” ก็คือ ไม่ว่าจะหักเงินเดือนพนักงานเท่าไหร่ บริษัทก็มีหน้าที่ต้องเติมให้ในจำนวนที่เท่ากัน เงินก้อนนี้จะถูกนำไปบริหารจัดการหาผลตอบแทนโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. ที่ตัวแทนนายจ้างและตัวแทนลูกจ้างร่วมกันเลือก และนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่นายจ้าง-ลูกจ้าง และผู้จัดการกองทุน ตัดสินใจร่วมกัน
 
                                ถ้าพูดแบบวัยรุ่น ก็ต้องบอกว่า “ความฟิน” มันอยู่ที่เมื่อลูกจ้างลาออกจากงาน โดยมีระยะเวลาการทำงานครบตามข้อตกลง คือ 5 ปี หรือ 6 ปี ก็สามารถรับเงินทั้งก้อน ทั้งส่วนที่หักจากลูกจ้าง ส่วนที่นายจ้างเติมให้ รวมถึงดอกผลจากการบริหารของ บลจ. ส่วนถ้าทำงานในระยะเวลาไม่ครบ จะลาออกก่อน เขาก็จะมีข้อกำหนดลดหลั่นกันลงไป นอกจากนี้ การลงทุนระหว่างปีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังนำไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้อีก
 
                                ลูกจ้างที่ไม่เคยคิดว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะมีเงินแสน หรือหลายแสน หรือมากขนาดหลักล้าน บอกไว้ตรงนี้เลยว่า ชีวิตจะมีโอกาสจับเงินก้อนโต ก็ด้วย “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” นี่แหละ
 
                                ขณะที่ข้าราชการก็ไม่น้อยหน้า เพราะกลไกการทำงานของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ก็เป็นกลไกที่มีรูปแบบเดียวกันกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แค่แตกต่างกันในเรื่องของรายละเอียด
 
                                มีโอกาสฟังคุณสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กบข. แถลงผลการดำเนินงานของ กบข. เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณสมบัติคุยให้ฟังถึงเรื่องการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญ ตาม พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 หรือที่เรียกชื่อเล่นกันว่า ใช้สิทธิอันดู (Undo) ที่อาจแปลได้ว่า ย้อนกลับหรือไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งสิทธิ Undo นี้ ให้สิทธิข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก แล้วกลับไปใช้สิทธิแบบเดิม
 
                                สิทธิแบบเดิม หมายถึง เมื่อข้าราชการเกษียณอายุแล้ว สามารถเลือกรับ “บำเหน็จ” (คำนวณจากเงินเดือนเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีที่รับราชการ) โดยรับเป็นเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียว หรือรับ “บำนาญ” (คำนวณจากเงินเดือนเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปีที่รับราชการ หารด้วย 50 แต่ต้องไม่เกิน 100% ของเงินเดือน) ที่รับเป็นรายเดือนจนเสียชีวิต สิทธิแบบเดิมนี้ ข้าราชการเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างรับบำเหน็จหรือบำนาญ
 
                                แต่ถ้าเป็นสมาชิก กบข. ข้าราชการจะได้รับทั้ง “บำเหน็จ” และ “บำนาญ” ต่างกันที่สูตรในการคำนวณ เพราะเงินก้อนหรือ “บำเหน็จ” ที่ข้าราชการจะได้รับ จะประกอบด้วยเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสะสมและเงินสมทบ บวกด้วยดอกผลจากการบริหารจัดการ ถ้านึกไม่ออกว่า เงินก้อนนี้อยู่ที่เท่าไหร่ คุณสมบัติบอกว่า เคยลองทำสถิติออกมาเป็นค่ากลางๆ แล้วพบว่า อยู่ระหว่าง 8 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท โดยแยกคร่าวๆ ได้ว่า เป็นเงินส่วนของข้าราชการที่ถูกสะสมไว้ 30% และเป็นเงินที่รัฐเติมให้จากการบริหารผ่าน กบข.อีก 70% 
 
                                แปลว่า ใน 1 ล้านบาท มีเงินเราแค่ 3 แสนบาท แต่เป็นเงินเขาที่เติมให้เราถึง 7 แสนบาท ! 
 
                                ส่วนสูตรการคำนวณ “บำนาญ” ของสมาชิก กบข. จะคำนวณจากเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายคูณอายุราชการ หารด้วย 50 แต่ต้องไม่เกิน 70% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ตรงนี้แหละที่เป็นประเด็นทำให้สมาชิกลังเลใจว่า จะ Undo หรือไม่ Undo เพราะมีตัวแปรอย่างน้อย 2 ตัวที่แตกต่างจากคนไม่ได้เป็นสมาชิก กบข. นั่นคือ “เงินเดือนเดือนสุดท้าย” กับ “เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย” และ “แต่ต้องไม่เกิน 100% ของเงินเดือนสุดท้าย” กับ “แต่ต้องไม่เกิน 70% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย”
 
                                เพราะถ้าดูแค่ 2 คู่นี้แล้ว ก็ต้องยอมรับว่า สิทธิของสมาชิก กบข.ในการรับบำนาญนั้น “น้อยกว่า” คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก อันนี้คุณสมบัติก็คำนวณให้ว่า เอาเข้าจริง มันแตกต่างกันไม่มาก อาจจะประมาณ 10% เท่านั้น แต่อย่าลืมว่า สมาชิก กบข.ยังได้ “บำเหน็จ” อีกก้อนใหญ่ รวมถึงผลตอบแทนจากการบริหารจัดการลงทุน ซึ่งในรอบ 11 เดือนครึ่งของปีนี้ สามารถทำได้เกือบ 6% ซึ่งถือว่า น่าพอใจ ท่ามกลางความผันผวนของหุ้นไทย-หุ้นโลก รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
 
                                ถามว่า สมาชิกจะอยู่หรือจะไป จะ Undo หรือจะเดินหน้าต่อ ไม่มีใครตอบได้ เพราะแต่ละคนต้องคำนวณเงินเดือน อายุราชการ และ ฯลฯ ของตัวเองว่า แบบไหนให้ “ประโยชน์” มากกว่ากัน แต่ที่ตอบได้แบบหนักแน่นและมั่นคง ก็คือ การเป็นสมาชิก กบข. ก็เหมือนการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่สร้าง “วินัย” ในการ “ออมก่อนใช้” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
                                เพราะแค่กลไกนี้กลไกเดียวก็เหมือนกับที่ รศ.ดร.วรากรณ์ เขียนไว้ว่า คาถา “ออมก่อนใช้” จะช่วยให้มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่ต้องอาศัยจมูกคนอื่นหายใจ
 
 
 
 
 
 
------------------------
 
(เงินทองต้องรู้ : อยู่หรือไป : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล k_wuttikul@hotmail.com)